วันนี้เป็นการฟาดแข้งกันระหว่างสองชาติยักษ์ใหญ่ของยุโรประหว่าง อิตาลี พบ สเปน ที่สนามเวมบลีย์โดยทางฝั่งอิตาลีมาพร้อมขุมกำลังที่แข็งแกร่งทั้งเกมรับเกมรุก ส่วนทางสเปนมาพร้อมกับสถิติที่ยิงประตูคู่แข่งได้เยอะที่สุดในศึกฟุตบอลยูโร 2020 ครั้งนี้คู่นี้เป็นศึกที่แฟนบอลไม่ควรพลาด
สำหรับ อิตาลี ที่ขุมทัพโดย โรแบร์โต มันชินี ในรอบแบ่งกลุ่มจนถึงรอบนี้พวกเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งมาได้ 5 นัดติดไม่มีสะดุดถือว่าฟอร์มมาแรงสุดๆ ในนักเตะอิตาลีชุดนี้มีนักเตะที่น่าจับตามองอย่าง โลเรนโซ อินซิญเญ ที่พังประตูไปแล้ว 2 ลูกในทัวร์นาเมนต์นี้ ส่วนอีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองคือ เฟเดริโก เคียซ่า ดาวรุ่งของยูเว่ที่ยืมตัวมาจาก ฟิออเรนติน่า เขาเป็นลูกชายของ เอ็นริโก เคียซ่า อดีตกองหน้าของ “ม่วงมหากาฬ” เช่นกัน ทางด้านความพร้อม อิตาลี น่าจะส่งทั้ง อินซิญเญ, เคียซ่า ลงในแดนหน้าส่วนหน้าเป้าเป็น ชิโร อิมโมบิเล ส่วนผู้เล่นตัวหลักคนอื่นอย่าง โบนุชชี่, คิเอลลินี่, ดิ ลอเรนโซ่, จอร์จินโญ่, แวร์รัตติ, บาเรลลา น่าจะได้ลงสนามตั้งแต่เริ่มเกมเป็นปกติ
ส่วนทางด้าน “กระทิงดุ” สเปน โดยการนำทัพของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ผลงานในรอบแรกจะเข้ามาเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม และมีเสียงวิจารณ์เรื่องของการวางตัวนักเตะที่ดันทุรังส่ง โมราต้า ที่ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าควรลงสนามแต่ด้วยความไว้วางใจในลูกทีมของ เอ็นริเก้ ทางกองหน้าตัวหลักอย่าง โมราต้า เองก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการซัดไปแล้วสองประตู ทางด้านความพร้อมทาง สเปน จะขาด พาโบล ซาราเบีย ที่มีอาการบาดเจ็บจากนัดที่แล้ว และยังต้องลุ้น แอมริก ลาปอร์ต ว่าจะฟิตพอ หรือไม่จากความเหนื่อยล้า
วิเคราะห์เกมระหว่าง อิตาลี – สเปน
สำหรับทั้งสองทีมเจอกันสเปนมีสถิติที่ดีกว่าแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเป็นนักเตะคนละชุดกันกับที่เคยเจอมาเพราะอิตาลีในยุคของ มันชินี มีทั้งเกมรับที่เหนียวแน่น ส่วนเกมบุกก็ยอดเยี่ยม เทียบกันกับสเปนมีเกมบุกที่ดีแต่แนวรับยังไม่แน่นพอทำให้ต้องปรับแท็กติกในแผงหลังให้ดีกว่าเดิมเพื่อจะมีโอกาสตีตั๋วเข้ารอบชิงมากขึ้นอย่างไรก็ตามคาดว่าแมตช์นี้ต้องเต็มไปด้วยคุณภาพสมชื่อยักษ์ใหญ่แห่งแดนยุโรปแน่นอนทั้งสองทีมต่างมีสิทธิเข้ารอบชิงอาจจะจบในเวลา 90 นาที ด้วยการเสมอจนต่อเวลาพิเศษไปถึงการดวลจุดโทษ