20 ประตูสุดสวยของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เรียกเขาว่า “พระเจ้า”
สวัสดีครับวันนี้เว็บไซต์ Longsanam.com จะมาเสนอประวัตินักฟุตบอลที่หลายคนเรียกเขาว่า “พระเจ้า” ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ( Zlatan Ibrahimovic ) เป็นนักเตะชาว สวีเดน มีเชื้อสายบอสเนีย ปัจจุบันเล่นตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า เกิดวันที่ 3 ต.ค. 1981 อยู่ใน โรเซนการ์ด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยของผู้อพยพมากมายหลากหลายเชื้อชาติ สถานะของครอบครัวอยู่ในระดับล่างของสังคม อีกทั้งในวัยเด็กพวกเขายังโดนเหยียดจากผู้คนที่เป็นเจ้าของประเทศอยู่บ่อยครั้ง เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตอน 10 ขวบ ในสมัยเยาวชนเล่นให้กับ เอฟบีเค บัลคาน เอฟเอฟ ก่อนที่จะมาเล่นให้กับสโมสรในบ้านเกิดอย่าง มัลโม่ เอฟเอฟ เนื่องด้วยเขามีฝีเท้าเยี่ยมครั้งหนึ่ง อาร์แซน เวนเกอร์ เคยชวนเขามาอยู่กับอาร์เซน่อลแต่ทางต้นสังกัดในเวลานั้นไม่ยอมปล่อยตัวเขาออกมากนอกจากนี้ก็มีกุนซือฝีมือดิย่าง ลีโอ บีนฮักเกอร์ ก็สนใจในตัวเขาเช่นกัน
หลังจากนั้นในปี 2001 ทาง ซลาตัน ก็ได้มาเล่นให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัว 7.8 ล้านยูโร ( 320 ล้านบาท ) และนี่ก็เป็นสโมสรแจ้งเกิดให้กับเขาอย่างเต็มตัวจนมาถึงในปี 2004 อิบราฮิโมวิช ก็ได้ย้ายเข้ามาถิ่น เดลเล่ อัลปิ ของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 16 ล้านยูโร ( 640 ล้านบาท )
ถึงแม้เขาจะย้ายมาช่วงครึ่งฤดูกาลหลังแต่ก็ระเบิดฟอร์มซัดไป 16 ประตู และก็เบียดกับกองหน้าตัวเก๋าอย่าง เดล ปิเอโร่ ตกไปเป็นตัวสำรอง จากการที่เขาระเบิดฟอร์มอันร้อนแรงออกก็ได้มีสโมสรเจ้ายุโรปอย่าง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด สนใจแต่ก็มีข่าวว่าทางยูเว่นั้นปฎิเสธที่จะขายถึงแม้ทางมาดริดจะทุ่มเงินสูงถึง 70 ล้านยูโร ( 2,800 ล้านบาท ) ก็ตามจากนั้นเขาถูกโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2004/05 จากแฟนบอลยูเวนตุสอีกด้วย และยังได้อันดับ 8 รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปี 2005 ของฟีฟ่าอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้ กัลด์โบเลน คือ รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสวีเดน แต่แล้วในปี 2006 ก็เกิดเรื่องสโมสรยูเวนตุสถูกปรับตกชั้นในข้อหาล้มบอลหล่นไปเล่นใน เซเรีย บี ก็แน่นอนว่ากองหน้าตัวเก่งอย่าง อิบราฮิโมวิช ก็ต้องมีทัมยักษ์ใหญ่ต่างแย่งกันเป็นแถว ๆ และก็เป็น อินเตอร์ มิลาน ได้ไปเขาเล่นให้กับ “งูใหญ่” สามฤดูกาลลงเล่นทั้งหมด 177 นัด ทำได้ไป 66 ประตู
ในฤดูกาล 2009/2010 เขาก็ได้ย้ายมาเล่นที่ คัมป์ นู ของ บาร์เซโลน่า ซึ่งทางบาร์ซ่าใน ณ เวลา นั้นต้องการที่จะปล่อยตัวกองหน้าตัวดังสัญชาติ แคเมรูน อย่าง ซามูเอล เอโต้ อยู่แล้วทาง “เจ้าบุญทุ่ม” ก็ได้บรรลุข้อตกลงกับทางอินเตอร์ด้วยการยื่นเอโต้พร้อมกับเงินเพื่อแลกตัว ซลาตัน มาโดยเปิดตัวกับสโมสร 28 ก.ค. 2009 ในฤดูกาลนี้เขายิงไป 16 ประตู ช่วยให้ทางบาร์ซ่าคว้าแชมป์ลาลีกาได้สำเร็จ แต่การที่เขาได้มาเล่นให้กับบาร์เซโลน่าชีวิตเขาก็ไม่ได้สวยหรูเพราะปัญหากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เป็นกุนซิในขณะนั้น
ในปี 2010 ทาง “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ก็ได้ประกาศในเว็บไซต์ของสโมสรว่าได้บรรลุข้อตกลงกับทางบาร์เซโลน่าเรียบร้อยแล้วในการยืมตัว ซลาตัน มาใช้ 1 ฤดูกาล และออฟชั่นซื้อขาด 24 ล้านยูโร ( 960 ล้านบาท ) เขาลงเล่นให้กับสโมสรนัดแรกในแมตช์ที่แพ้ เชเซน่า 0-2 และในการแข่งครั้งนี้เขาก็เป็นคนยิงจุดโทษพลาดอีกด้วย แต่ฟอร์มของเขาเริ่มดีขึ้นจนสามารถพา เอซี มิลาน คว้าถ้วยสคูเด็ตโต้มาได้สำเร็จ
ปี 2012 ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเขาอีกครั้งเมื่อเขาได้ย้ายมาเล่นให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลีกเอิงของฝรั่งเศส และเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่มีเม็ดเงินหนามีนักเตะชั้นนำมาค้าแข้งมากมายเขามาด้วยค่าตัว 14 ล้านยูโร ( 560 ล้านบาท ) ด้วยสัญญา 3 ปี ในฤดูกาล 2012 – 2013 ที่เข้าย้ายมาเล่นให้กับ เปแอสเช ก็ระเบิดฟอร์มสุดโหดยิงไป 30 ประตู จนได้รางวัลดาวซัลโวของลีก และก็ได้เป็นคนแรกที่ทำประตูเท่ากับดาวยิงในตำนานของฝรั่งเศสอย่าง ฌอง ปิแอร์ ปาแปง ที่ทำได้ในปี 1989 – 90 และในฤดูกาล 2013 – 2014 เขาก็ได้ขยายสัญญาออกไปจนถึงปี 2016 แน่นอนครับว่าระดับ “พระเจ้า” แล้วก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังในตอนนี้ที่เขาอยู่กับเปแอสเชได้พาทีมประความสำเร็จมากมาย
ในปี 2015 – 2016 ชีวิตค้าแข้งของเขาก็เปลี่ยนอีกรอบเมื่อเขาย้ายมาเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ ลีก อย่าง “ ปีศาจแดง ” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการชวนของนายเก่าอย่าง โจเซ่ มูรินโญ่ เขาเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงปี 2018
ในปี 2018 – 2019 เขาก็ได้ย้ายมาเล่นให้กับทีม แอลเอ กาแลกซี่ทีมดังจาก เมเจอร์ลีกซอกเกอร์ ซึ่งก็แน่นอนอีกเช่นเคย “พระเจ้า” ก็คือ “พระเจ้า” เขาก็โชว์เทพอีกเช่นเคย
ล่าสุดในปี 2020 ทาง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ก็ได้ย้ายมาเล่นให้กับต้นสังกัดเก่าอย่าง เอซี มิลาน กำลังพา “ปีศาจแดงดำ” ประสบความสำเร็จอีกครั้งแต่ตอนนี้ยังมีอาการบาดเจ็บจึงยังไม่สามารถลงสนามได้
ส่วนในนามทีมชาติ ซลาตัน สามารถเลือกเล่นได้ทั้งทีมชาติ บอสเนีย และโครเอเชียแต่เขาก็กลับเลือกเล่นให้กับทีมชาติสวีเดนประเทศเกิดของเขา และได้กลายเป็นกำลังหลักของทีม “ ไวกิ้ง ” สวีเดน ซึ่งปัจจุบันเขาก็ประกาศอำลาทีมชาติแล้วหลังฟุตบอลยูโร 2016
หากเพื่อน ๆ คนไหนอยากรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกีฬาประเภทอื่น หรือ ประวัตินักกีฬา สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ Longsanam.com ( ลงสนาม ) ได้เลยครับ
